26 มิถุนายน 2566
กนิษฐา พุ่มผล และ ธนวัฒน์ ทองน้อย
Apple ประกาศอัปเดตครั้งใหญ่สำหรับ Private Browsing ใน Safari เพื่อปกป้องผู้ใช้งานจากการติดตามของ Third-Party ในระหว่างการใช้งานอินเทอร์เน็ตที่ดียิ่งขึ้น
การเปลี่ยนแปลงที่สำคัญอีกอย่างรวมถึงคุณสมบัติการป้องกันการติดตามลิงก์ในอีเมล ข้อความ, และโหมดส่วนตัวของ Safari เพื่อลบ Tracking Parameters ใน URL โดยอัตโนมัติ ซึ่งมักถูกใช้ในการติดตามข้อมูลเกี่ยวกับการคลิก
การปรับปรุงด้านความเป็นส่วนตัวได้ถูกนำแสดงในงานประชุม WWDC (Apple’s annual Worldwide Developers Conference) ประจำปี โดยคาดว่าจะเสนอให้แก่ผู้ใช้โดยบรรจุเป็นส่วนหนึ่งของ iOS 17, iPadOS 17 และ macOS Sonoma ในช่วงปลายปี
จุดเปลี่ยนหลัก ได้แก่ การป้องกันการติดตามของลิงค์ภายในอีเมล ข้อความ และใน Private Mode ของ Safari โดยการลบ Tracking Parameter ใน URL ซึ่งมักใช้ในการติดตามข้อมูลของการคลิก
Safari เป็นผู้นำในการ Private Browsing โดยประกอบไปด้วยฟีเจอร์ด้านความเป็นส่วนตัวและความมั่นคงปลอดภัยที่หลากหลาย ดังที่ Craig Federighi (Apple) กล่าวแก่ Fast Company ว่า “การท่องเว็บในอินเทอร์เน็ตเป็นหนึ่งในปัจจัยเสี่ยงของความเป็นส่วนตัว”
สำหรับ iOS ที่กำลังจะเปิดตัวใหม่นี้ยังมีฟีเจอร์ Photos Pickers ซึ่งผู้ใช้สามารถเลือกที่จะแลกเปลี่ยนเฉพาะบางรูปภาพกับบางแอพพลิเคชั่นก็ได้ ในขณะที่รูปภาพอื่นยังคงเก็บไว้ในไลบรารีด้วยความเป็นส่วนตัว
นอกจากนี้ Apple ยังมุ่งมั่นในการปรับปรุงการสื่อสารอย่างปลอดภัยซึ่งจะทำการเตือนเมื่อเด็กรับหรือส่งรูปภาพหรือคอนเทนต์วิดีโอที่ไม่เหมาะสมผ่าน Messages ซึ่งจะได้ขยายฟีเจอร์ให้ครอบคลุมไปยัง AirDrop, FaceTime และ Photos อีกด้วย
เทคโนโลยีซึ่งมุ่งคุ้มครองความเป็นส่วนตัวนี้เป็นส่วนหนึ่งที่สนับสนุนการสื่อสารอย่างปลอดภัย ซึ่งแม้แต่ผู้ใช้งานที่เป็นผู้ใหญ่ก็สามารถแจ้งเตือนคอนเทนต์ที่มีความละเอียดอ่อนได้ โดยตั้งค่าให้หลีกเลี่ยงการรับภาพหรือวิดีโออนาจารผ่านช่องทาง Messages, AirDrop หรือ FaceTime
ผู้ใช้งานยังสามารถแบ่งปันชุดของรหัสผ่านและรหัสลับอย่างปลอดภัยกับผู้อื่นผ่าน iCloud Keychain โดยการสร้างขึ้นมาเป็นกลุ่ม โดยสมาชิกภายในกลุ่มสามารถเพิ่มและแก้ไขรหัสผ่านได้
ท้ายที่สุด Apple ได้เพิ่มความสามารถใหม่ให้แก่ Lockdown Mode ซึ่งได้แก่ การเชื่อมต่อผ่านเครือข่ายไร้สายอย่างปลอดภัย การจัดการสื่อ (Media Handling) การแลกเปลี่ยนสื่อ (Media Sharing Default), Sandboxing และการเพิ่มประสิทธิภาพด้านความมั่นคงเครือข่าย โดยได้รับการขยายให้ครอบคลุมไปยัง watchOS ด้วย
การเปิดใช้งาน Lockdown Mode จะเพิ่มความแข็งแกร่งให้แก่อุปกรณ์โดยจำกัดการใช้งานฟังก์ชั่นต่างๆเพื่อลดพื้นที่ (Attack Surface) จึงเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการการปกป้องที่เหนือกว่าเดิม รวมถึงผู้ที่อาจตกเป็นเป้าหมายของสปายแวร์อันเนื่องจากตัวตนหรือภารกิจของบุคคลเหล่านั้น | The Hacker News
เกี่ยวกับไซเบอร์ตรอน
ผู้ให้บริการ #CyberResilience ศูนย์เฝ้าระวังภัยคุกคามด้านความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์รูปแบบใหม่ พร้อมโซลูชั่นเพื่อการพัฒนาความสามารถด้วยแพลตฟอร์มการจำลองยุทธ์ด้านความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ อีกทั้งยังเป็นผู้นำการให้บริการนวัตกรรมด้านความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ที่ล้ำสมัยในระดับสากล
บริการของเรา