FBI ประกาศได้รับกุญแจถอดรหัส LockBit 3.0 มากกว่า 7,000 ชุด โดยผู้เสียหายสามารถขอปลดล็อคได้ “ฟรี”

FBI ประกาศเมื่อวันที่ 10 มิถุนายน 2567 ว่าได้รับกุญแจถอดรหัส Ransomware LockBit 3.0 มากกว่า 7,000 ชุด ซึ่งเป็นมัลแวร์เรียกค่าไถ่ที่เป็นภัยคุกคามต่อองค์กรต่างๆ ทั่วโลก โดย FBI ได้จัดตั้งเว็บไซต์สำหรับให้เหยื่อของ LockBit 3.0 สามารถตรวจสอบและดาวน์โหลดกุญแจถอดรหัสได้ฟรี

หัวหน้าฝ่ายไซเบอร์ของ FBI กล่าวในการปาฐกถาสำคัญว่า “จากที่ LockBit ได้หยุดการดำเนินการก่อนหน้านี้ ทำให้ขณะนี้เรามีคีย์ถอดรหัสมากกว่า 7,000 คีย์ และสามารถช่วยให้เหยื่อเรียกคืนข้อมูลของตนเองและกลับมาใช้งานออนไลน์ได้ ซึ่งเรากำลังติดต่อเหยื่อที่ทราบว่าถูกโจมตีจาก LockBit และสนับสนุนให้ใครก็ตามที่สงสัยว่าตนเองตกเป็นเหยื่อ ติดต่อศูนย์รับเรื่องร้องเรียนอาชญากรรมทางอินเทอร์เน็ตที่ ic3.gov”

ที่มาของกุญแจถอดรหัส:
FBI ได้รับกุญแจถอดรหัสเหล่านี้มาจากการเข้าถึงเซิร์ฟเวอร์ของ LockBit 3.0 ที่อยู่ในประเทศฝรั่งเศสและสหรัฐอเมริกา การเข้าถึงเซิร์ฟเวอร์ดังกล่าวเป็นผลมาจากความร่วมมือระหว่างหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายของหลายประเทศ

วิธีการขอปลดล็อคข้อมูล:
เหยื่อของ LockBit 3.0 สามารถเข้าไปที่เว็บไซต์ของ FBI เพื่อตรวจสอบว่ามีกุญแจถอดรหัสสำหรับข้อมูลของตนหรือไม่ หากมีกุญแจถอดรหัส ผู้เสียหายสามารถดาวน์โหลดและใช้เครื่องมือถอดรหัสของ FBI เพื่อปลดล็อคข้อมูลได้ฟรี ทั้งนี้ FBI แนะนำให้เหยื่อสำรองข้อมูลทั้งหมดก่อนทำการถอดรหัส เพื่อป้องกันความเสียหายที่อาจเกิดขึ้น

ความช่วยเหลือจาก FBI:
ผู้เสียหายสามารถขอปลดล็อกข้อมูลฟรีโดยเตรียมข้อมูลสำหรับการยืนยันตัวตน และแสดงสิทธิความเป็นเจ้าของข้อมูล เช่น ตัวอย่างไฟล์ที่ถูกล็อก หรือ บันทึกการสื่อสารกับทาง LockBit

ความสำคัญของเหตุการณ์นี้:
กุญแจถอดรหัสที่ทาง FBI ได้รับจะช่วยลดความเสียหายที่เกิดจาก LockBit 3.0 และช่วยให้องค์กรต่างๆ สามารถฟื้นฟูระบบของตนได้เร็วขึ้น
เหตุการณ์นี้ยังเป็นการส่งสัญญาณเตือนไปยังกลุ่มอาชญากรไซเบอร์ว่าหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายมีความสามารถในการติดตามและดำเนินคดีกับพวกเขา

คำแนะนำสำหรับเหยื่อ:
หากท่านเป็นเหยื่อของ LockBit 3.0 ควรติดต่อ FBI ทันทีเพื่อขอรับความช่วยเหลือในการปลดล็อกข้อมูล อย่างไรก็ตามขอย้ำว่าท่านไม่ควรจ่ายค่าไถ่ เพราะการจ่ายค่าไถ่เป็นการสนับสนุนกิจกรรมของอาชญากร และไม่มีสิ่งใดรับประกันได้ว่าท่านจะได้รับข้อมูลคืนทั้งหมด ทั้งนี้ควรสำรองข้อมูลสำคัญในองค์กรอย่างสม่ำเสมอ เพื่อลดความเสียหายในสถานการณ์ที่ถูกโจมตีด้วย Ransomware